บาคาร่าออนไลน์กลายเป็นเกมคาสิโนยอดนิยมที่ผู้เล่นทั้งหน้าใหม่และมืออาชีพต่างหลงรัก ด้วยความง่ายในการเล่น ไม่ต้องอาศัยประสบการณ์มากก็สามารถเริ่มต้นเดิมพันได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยสัมผัสเกมนี้มาก่อน การเข้าใจกติกาเบื้องต้น การเดิมพัน และการอ่านผลแพ้ชนะจะช่วยให้มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น
บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายกับป๊อกเด้ง แต่ไม่จำเป็นต้องเล่นด้วยไพ่ในมือของตนเอง เพราะผู้เล่นมีหน้าที่เพียงเลือกว่าฝ่ายใดจะชนะระหว่าง “ผู้เล่น (Player)” กับ “เจ้ามือ (Banker)” หรือทายว่าเกมจะออกผล “เสมอ (Tie)” เท่านั้น จากนั้นดีลเลอร์จะเป็นผู้แจกไพ่และตัดสินผลลัพธ์ให้
สิ่งสำคัญของการเล่นบาคาร่าออนไลน์ไม่ใช่แค่เรื่องของโชค แต่ยังรวมถึงการเข้าใจกติกา รูปแบบของการเดิมพัน เทคนิคการเดินเงิน และการเลือกเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ด้วยวิธีการเหล่านี้แม้จะเป็นมือใหม่ ก็สามารถเริ่มต้นสร้างรายได้จากบาคาร่าได้ภายใน 5 นาที
กติกาพื้นฐานของบาคาร่าออนไลน์ที่มือใหม่ควรรู้
หากยังไม่เคยเล่นบาคาร่าออนไลน์มาก่อน การเริ่มต้นด้วยการเข้าใจกติกาคือหัวใจสำคัญอันดับแรก โดยกติกาของบาคาร่าออนไลน์นั้นไม่ซับซ้อน และสามารถเรียนรู้ได้ภายในเวลาอันสั้น
เกมบาคาร่าใช้ไพ่ในการเล่นทั้งหมด 8 สำรับ (บางค่ายใช้ 6 สำรับ) โดยจะแจกให้ฝั่ง Player และ Banker ฝั่งละ 2 ใบ และมีการจั่วใบที่ 3 ตามเงื่อนไขเฉพาะ หากฝั่งใดมีแต้มใกล้ 9 มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
การนับแต้มไพ่ในบาคาร่าออนไลน์
- ไพ่ 2 – 9 = มีค่าเท่ากับเลขหน้าไพ่
- ไพ่ 10, J, Q, K = มีค่าเท่ากับ 0
- ไพ่ A = มีค่าเท่ากับ 1
ตัวอย่าง: ไพ่ 7 กับ 9 รวมกันได้ 16 แต้ม ในบาคาร่าแต้มจะคิดเฉพาะหลักหน่วย ดังนั้นแต้มของฝั่งนี้จะเท่ากับ 6 แต้ม
การแจกไพ่และการตัดสินใจจั่วไพ่ใบที่ 3
ดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้ทั้งสองฝั่ง ฝั่งละ 2 ใบ หากแต้มรวมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคือ 8 หรือ 9 จะเรียกว่า “เนเชอรัล” และถือว่าชนะในรอบนั้นทันที หากไม่มีฝ่ายใดได้แต้ม 8 หรือ 9 กฎการจั่วไพ่ใบที่สามจะมีผล โดยเฉพาะฝั่ง Player จะจั่วไพ่ใบที่สามเมื่อมีแต้ม 0-5 และหยุดเมื่อแต้มเป็น 6 หรือ 7 ส่วน Banker จะจั่วไพ่ขึ้นอยู่กับแต้มของตนเองและแต้มของฝั่ง Player ในไพ่ใบที่สาม
ประเภทของการเดิมพันในบาคาร่าออนไลน์
หนึ่งในข้อดีของบาคาร่าออนไลน์คือการที่ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละประเภทของการเดิมพันนั้นมีอัตราการจ่ายและความเสี่ยงแตกต่างกัน ซึ่งหากเข้าใจอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้วางกลยุทธ์การเดิมพันได้ดีขึ้น
1. การเดิมพันหลักในบาคาร่า (Main Bets)
- Player (ผู้เล่น): ทายว่าฝั่งผู้เล่นจะชนะ มีอัตราจ่าย 1:1
- Banker (เจ้ามือ): ทายว่าฝั่งเจ้ามือจะชนะ มีอัตราจ่าย 0.95:1 (หักค่าคอมมิชชั่น 5%)
- Tie (เสมอ): ทายว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน มีอัตราจ่าย 8:1 หรือ 9:1 ขึ้นอยู่กับค่ายเกม
2. การเดิมพันข้างเคียง (Side Bets)
- Pair (ไพ่คู่): ทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่ง Player หรือ Banker จะออกไพ่เหมือนกัน เช่น 8-8, Q-Q เป็นต้น มีอัตราจ่าย 11:1
- Perfect Pair: ทายว่าไพ่คู่จะมีดอกเดียวกันด้วย อัตราจ่าย 25:1 หรือมากกว่านั้น
- Big/Small: ทายจำนวนไพ่รวมของทั้งสองฝั่งว่าจะมากหรือน้อย
การเดิมพันในแต่ละประเภทมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน เช่น Banker จะมีโอกาสชนะมากกว่าฝั่ง Player เล็กน้อย จึงมีการหักค่าคอมมิชชั่น ขณะที่ Tie แม้อัตราจ่ายจะสูง แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก การเลือกประเภทการเดิมพันที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากสไตล์การเล่น
FAQ คำถามที่พบบ่อย
A:ไพ่ A = 1, 2-9 = แต้มตามหน้าไพ่, 10 / J / Q / K = 0 แต้ม
A:ป๊อกเด้งเล่นกับเจ้ามือโดยตรง ส่วนบาคาร่าผู้เล่นเลือกเดิมพันฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
A:ใช้ไพ่ 2-3 ใบในแต่ละฝั่ง แต้มสูงสุดคือ 9 ฝั่งที่ได้แต้มใกล้เคียง 9 มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ
A:ถ้าทั้งสองฝั่งแต้มเท่ากันจะถือว่าเสมอ (Tie) ผู้เดิมพัน Tie จะได้เงินรางวัลสูงถึง 8 หรือ 9 เท่า
A:อย่างน้อย 3 แบบหลัก ๆ คือ Banker, Player, Tie และอาจมี Pair, Big/Small เพิ่มในบางค่าย



