บาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่น (No Commission Baccarat) คือรูปแบบการเล่นบาคาร่าที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดความซับซ้อนเรื่องค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชั่นจากฝั่งเจ้ามือ (Banker) ในบาคาร่าปกติ เมื่อผู้เล่นเดิมพัน Banker ชนะ จะต้องเสียค่าคอมมิชชั่น 5% ของเงินรางวัล เช่น แทง 1,000 บาท Banker ชนะ จะได้ 950 บาท เพราะถูกหัก 5% แต่ในบาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่น ผู้เล่นจะไม่ต้องจ่ายค่าคอม ทำให้ได้เงินเต็มจำนวน
อย่างไรก็ตาม ระบบนี้มีเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อรักษาสมดุล เช่น หากฝั่ง Banker ชนะด้วยแต้ม 6 จะจ่ายเพียง 50% ของเงินเดิมพัน เช่น แทง 1,000 บาท จะได้ 500 บาท กติกานี้ทำให้คาสิโนยังคงได้เปรียบในระยะยาว แม้ผู้เล่นไม่ต้องเสียค่าคอมในทุกตา
บาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่น vs บาคาร่าปกติ อันไหนดีกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกัน จุดแตกต่างสำคัญคือ การหักค่าคอมมิชชั่น บาคาร่าปกติจะหัก 5% ทุกครั้งที่ Banker ชนะ แต่แบบไม่มีคอมมิชชั่นจะไม่หัก ทำให้ผู้เล่นได้เงินเต็มในหลายกรณี แต่ต้องแลกกับความเสี่ยงเงื่อนไข Banker ชนะด้วย 6 ที่จะจ่ายแค่ครึ่งเดียว
หากดูจากความสะดวก บาคาร่าที่ไม่มีคอมมิชชั่นดีกว่าสำหรับผู้เล่นทั่วไป เพราะไม่ต้องมานั่งคิดคอมมิชชั่นทุกตา โดยเฉพาะคนที่เล่นแบบรวดเร็ว แต่หากเป็นผู้เล่นสายวิเคราะห์ที่ต้องการความแม่นยำ บาคาร่าปกติอาจมีความคาดเดาง่ายกว่า เพราะไม่มีเงื่อนไขจ่ายครึ่งแบบ Banker 6
สรุปคือ หากคุณต้องการความง่ายและรวดเร็ว เลือกแบบไม่มีคอม แต่ถ้าคุณเน้นความคลาสสิกและต้องการยึดตามอัตราการจ่ายปกติ บาคาร่าคลาสสิกก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี
เปรียบเทียบอัตราการจ่าย (Payout) ระหว่างสองรูปแบบ
- บาคาร่าปกติ:
- Banker ชนะ: จ่าย 1:0.95 (เพราะหัก 5%
 - Player ชนะ: จ่าย 1:1
 - Tie (เสมอ): จ่าย 1:8
 
 - บาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่น:
- Banker ชนะ: จ่าย 1:1 (เต็มจำนวน) ยกเว้นกรณีชนะด้วย 6 จะจ่าย 1:0.5
 - Player ชนะ: จ่าย 1:1
 - Tie: จ่าย 1:8
 
 
ข้อแตกต่างที่เห็นชัดคือ บาคาร่าปกติจะเสียคอมทุกครั้งที่ Banker ชนะ ส่วนแบบไม่มีคอมจะมีเพียงเงื่อนไข Banker 6 เท่านั้นที่ได้เงินครึ่ง ทำให้บางคนมองว่ามีความยุติธรรมมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองรูปแบบถูกออกแบบมาให้ความได้เปรียบของคาสิโนใกล้เคียงกัน
ข้อดีข้อเสียของบาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่น
ข้อดี:
- ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น ทำให้คำนวณเงินง่ายขึ้น
 - เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบเกมเร็ว ไม่ต้องคำนวณซับซ้อน
 - ได้รับเงินเต็มเมื่อลง Banker ชนะ (ยกเว้นกรณี 6)
 
ข้อเสีย:
- หาก Banker ชนะด้วยแต้ม 6 จะได้เพียงครึ่งเดียว
 - ผู้เล่นมือใหม่อาจไม่เข้าใจเงื่อนไขพิเศษนี้ ทำให้เกิดความสับสน
 - คาสิโนยังคงได้เปรียบในเชิงสถิติ แม้จะดูเหมือนผู้เล่นได้เปรียบ
 
สรุป ข้อดีคือความสะดวก ข้อเสียคือเงื่อนไข Banker 6 ที่ลดกำไรของคุณได้
วิธีคำนวณโอกาสชนะในบาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่น
โอกาสชนะในบาคาร่าไม่ได้เปลี่ยนไปตามกติกาคอมมิชชั่นมากนัก โดยสถิติเดิมคือ Banker มีโอกาสชนะประมาณ 45-46% Player 44-45% และ Tie 9% ความต่างคือผลตอบแทนที่คุณจะได้ โดยในแบบไม่มีคอม หาก Banker ชนะด้วยแต้ม 6 คุณจะได้แค่ครึ่งหนึ่ง ทำให้ค่าเฉลี่ยการจ่ายของ Banker ลดลงเล็กน้อย
วิธีคำนวณง่าย ๆ
- สมมุติแทง Banker 100 ตา ปกติจะชนะ 46 ตา ถ้าไม่มีคอมฯ ได้เต็ม แต่หากมีแต้ม 6 ประมาณ 5-6 ตา จะจ่ายครึ่ง ซึ่งเฉลี่ยแล้วทำให้กำไรน้อยกว่าที่คิด
 - หากคุณเลือก Player โอกาสและการจ่ายจะคงที่ เพราะไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขพิเศษ
 
นี่คือเหตุผลที่บางกลยุทธ์แนะนำให้สลับเล่น Player เพื่อลดความเสี่ยงจาก Banker 6
บาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่นเหมาะกับผู้เล่นทุนเยอะหรือทุนน้อย
บาคาร่าประเภทนี้เหมาะกับผู้เล่นทุกรูปแบบ แต่จะให้คุ้มค่ามากหากคุณเป็นสายเล่นเร็ว ทุนปานกลางถึงสูง เพราะไม่ต้องเสียเวลาและเงินไปกับค่าคอม 5% ทุกครั้งที่ Banker ชนะ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเป็นผู้เล่นทุนน้อยที่ชอบแทง Banker บ่อย ๆ คุณต้องยอมรับความเสี่ยง Banker 6 ที่อาจทำให้กำไรลดลง
ผู้เล่นทุนเยอะอาจมองว่าการไม่เสียคอมคือข้อได้เปรียบ เพราะทุกการเดิมพันที่ชนะได้เต็มจำนวนยกเว้นกรณีเดียว ขณะที่ทุนน้อยต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะเงื่อนไข Banker 6 สามารถทำให้ทุนหายเร็วหากไม่เข้าใจเกม
ทำไมบาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่นถึงได้รับความนิยมในปีล่าสุด
ความนิยมของบาคาร่าไม่มีคอมมิชชั่นมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความง่ายในการคำนวณ ไม่ต้องจ่ายค่าคอม 5% ที่สร้างความยุ่งยากให้ผู้เล่น อีกทั้งคาสิโนออนไลน์หลายแห่งโปรโมตเกมนี้อย่างหนักเพราะเล่นง่าย และมีความรู้สึกว่า ได้เต็มๆ
อีกเหตุผลคือยุคปัจจุบันผู้เล่นต้องการความรวดเร็ว ไม่อยากจดจำกติกาเยอะ บาคาร่าไม่มีคอมฯ จึงตอบโจทย์การเล่นบนมือถือและสตรีมสดในห้องคาสิโน ที่สำคัญ เทรนด์ของผู้เล่นยุคใหม่มักเน้นเกมที่โปร่งใส คำนวณกำไรง่าย ทำให้เกมนี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในปีล่าสุด
				
															


